“พาเวล เนดเวด” : “เยาวชนปลดแอก” จากเช็กที่ใช้พรแสวงก้าวสู่บัลลงดอร์

“เด็กคนนี้ไม่มีอนาคต” คาโรล โดเบียส นักเตะระดับตำนานของเชกโกสโลวาเกีย ชุดแชมป์ยูโร 1976 พูดถึง พาเวล เนดเวด

มันอาจจะจริงอย่างที่เขาว่า เพราะเนดเวดที่เล่นให้ สลาเวีย ปราก ในตอนนั้น ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่น เขาไม่มีเทคนิคที่ดีเยี่ยม ฝีเท้าที่ว่องไว หรือทำเกมได้ในระดับเพลย์เมกเกอร์

อย่างไรก็ดี นักเตะที่เขาเคยปรามาสในวันนั้น กลับสามารถเอาตัวรอดในลีกที่โหดหินอย่างเซเรีย อา และสถาปนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะระดับระดับตำนานของ ยูเวนตุส

เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Main Stand

นักเตะหลังม่านเหล็ก

แม้ว่าฟุตบอลยูโร 1996 ที่อังกฤษ จะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทำให้นักเตะทีมชาติสาธารณรัฐเช็กได้ออกมาค้าแข้งในลีกใหญ่ของยุโรปจากผลงานที่โดดเด่นด้วยตำแหน่งรองแชมป์ แต่ปัจจัยสำคัญที่แท้จริงอาจต้องย้อนไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย

มันคือช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 ต่อกับต้นทศวรรษที่ 1990 เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในยุโรป โดยเฉพาะเรื่องการเมืองที่เคยเป็นอุปสรรคขัดขวางเหล่านักเตะพรสวรรค์ได้เฉิดฉายเท่าที่ควร 

ก่อนหน้านั้นผู้เล่นในเช็ก (หรืออดีตเชโกสวาเกีย) จะมีกฎเหล็กก็คือ หากจะย้ายไปค้าแข้งในต่างประเทศจะต้องมีอายุ 32 ปีขึ้นไป และติดทีมชาติในระดับที่พอสมควร ทำให้มีนักเตะเพียงจำนวนเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ได้ออกไปเจอกับโลกนอกม่านเหล็ก

อย่างไรก็ดี ในปี 1989 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อกำแพงเบอร์ลินที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1961 เพื่อเป็นเส้นแบ่งเขตที่ชัดเจนสำหรับการแยกเยอรมนีออกเป็นสองประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้พังทลายลง

และมันก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในยุโรป เมื่อหลังจากนั้น ผู้คนในหลายประเทศได้ออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เช่นเดียวกับ เชโกสโลวาเกีย บ้านเกิดของเนดเวด

“เราถือกุญแจไว้ในมือแล้วเขย่ามันให้เสียงดัง ดังนั้น (ระบอบ) จึงเข้าใจว่าถึงเวลาแล้วสำหรับพวกเขาที่ต้องไป” เนดเวดย้อนความหลังตอนอายุ 17 ปีกับ Financial Times

“เราสู้เพื่อการแสดงออกในสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพ ที่ตอนนี้สามารถทำได้ แต่ก่อนหน้านั้นเป็นข้อห้าม”

Leave Comment

Your email address will not be published.