เมื่อ 2-3 วันก่อน เว็บไซต์ soccer-money.net ของญี่ปุ่น รายงานข่าวเกี่ยวกับรายได้นักเตะในศึกฟุตบอลเจลีก จำนวนทั้งหมด 566 ราย จาก 18 สโมสร ในลีกสูงสุดของแดนอาทิตย์อุทัย โดยอ้างอิงจากสัญญาที่ระบุไว้ในข้อมูลการว่าจ้าง ซึ่งค่าเฉลี่ยอายุผู้เล่นเจลีกช่วงเลกแรก อยู่ที่ 26.78 ปี เงินเดือนเฉลี่ยทั้งลีกอยู่ที่ 34.46 ล้านเยน (10.07ล้านบาท) ต่อปีต่อคน
อันเดรส อิเนียสตา อดีตมิดฟิลด์จอมทัพบาร์เซโลนา และทีมชาติสเปน ของสโมสรฟุตบอลวิสเซิล โกเบ กลายเป็นผู้เล่นที่รับค่าเหนื่อยสูงที่สุด เขารับทรัพย์เข้าประเป๋าปีละ 3,250 ล้านเยน หรือประมาณ 950 ล้านบาท แต่ผมว่ามันน่าสนใจจริงๆ ก็ตรงที่เว็บไซต์ดังกล่าวเขายังมีการเปิดเผยรายได้ของนักเตะไทยที่ไปค้าแข้งอยู่ที่นั่นด้วย
ปรากฏว่า “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน รับค่าเหนื่อยจากโยโกฮามา เอฟ มารีนอส ปีละ 50 ล้านเยน (ประมาณ 14.6 ล้านบาทเศษ) เท่ากับ “เทพมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ของชิมิสึ เอส พัลส์ ที่รับค่าเหนื่อย 50 ล้านเยน ต่อปีเช่นกัน ทั้งคู่รับเงินเดือนในเรตที่รั้งอยู่อันดับที่ 88 ร่วม ในขณะที่ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ จอมทัพทีมชาติไทย รับค่าเหนื่อยจากต้นสังกัด คอนซาโดเล ซัปโปโร ตกปีละ 40 ล้านเยน หรือราว 11.68 ล้านบาทเศษ
ภาพรวมค่าจ้างต่อปีที่สโมสรจ่ายให้นักเตะไทยทั้ง 3 ราย หากคำนวณรายรับเป็นรายเดือน ธีราทร บุญมาทัน รับเดือนละ 1.22 ล้านบาท ธีรศิลป์ แดงดา รับเดือนละ 1.22 ล้านบาท และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ รับเดือนละ 9.74 แสนบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมกับโบนัสในแต่ละแมตซ์ที่ชนะ และเงินพิเศษอื่นๆ อีก อย่างไรก็ตาม เชื่อขนมกินได้เลยว่าการต่อสัญญาครั้งใหม่ของ “เจ ชนาธิป” ไม่ว่าจะอยู่กับทีมเดิม หรือย้ายไปทีมใหม่ (ที่ใหญ่กว่า) ค่าเหนื่อยของเขาจะต้องพุ่งกระฉูดขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว และตัวเลขก็คงจะแซงหน้ารุ่นพี่ทั้ง 2 คนข้างต้นอย่างแน่นอน
ที่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเขียนอาจเป็นเพราะว่า ผมเองได้เห็นพัฒนาการของนักเตะเหล่านี้มาต่อเนื่อง อย่างน้อยๆ ก็ 15 ปีขึ้นไป พวกเขาเหล่านี้ต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรค และความยากลำบากมามากมาย อุ้ม-มุ้ย กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ต้องบอกว่า นอกจากพรสวรรค์แล้ว พวกเขายังพยุงตนไม่ออกนอกลู่นอกทางเหมือนกันเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกันหลายคน ที่ตอนเด็กมีแววเจิดจรัส แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงดวงดาว ในอีกมุมต้องถือว่าทั้งสองโชคดีที่ได้พบแต่โค้ชที่ทำหน้าที่เป็นทั้งครูเป็นทั้งพ่อ คอยบ่มเพาะ รวมถึงแนะทางเดินชีวิตให้ด้วย
ส่วน ชนาธิป นั้น ก็อย่างที่ทราบกันดีครับว่าถูก “พ่อจุ้ง” ก้องภพ สรงกระสินธ์ เคี่ยวเข็ญมาตั้งแต่เด็กๆ จนที่สุดเขาก็เติบใหญ่ขึ้นมาเป็นนักเตะเก่งสุดของประเทศไทยในยุคนี้ ทุกคนกว่าจะมาเป็นซุปเปอร์สตาร์เช่นนาทีนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องใช้ความมานะอดทน และความอุตสาหะอย่างที่สุด แต่ก็ต้องบอกว่า มันคุ้มครับ !!!
อยากให้ข้อมูลในคอลัมน์วันนี้เป็นสารตั้งต้น เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ทุกคน เอาเป็นเยี่ยง เอาเป็นอย่าง เพราะนอกเหนือจากรายได้ตัวเงินมหาศาลที่จะได้รับแล้ว พวกเขาเหล่านี้ยังเป็นความภูมิใจของคนทั้งชาติอีกด้วย เกียรติยศนี้ไม่สามารถประเมินค่าได้